ยุทธศาสตร์สามเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย: เครื่องยนต์ตัวใหญ่ ตัวใหม่ และตัวเล็ก

10 มกราคม 2568
ยุทธศาสตร์สามเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย: เครื่องยนต์ตัวใหญ่ ตัวใหม่ และตัวเล็ก

เศรษฐกิจไทยกำลังเติบโตช้าลงจากราว 8% ต่อปี ในช่วงปี 2523-2532 มาอยู่ราว 4% หลังวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 จนถดถอยมาอยู่ที่ต่ำกว่า 3% ในช่วงสิบปีให้หลังนี้ การเติบโตที่ต่ำมากนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการอัดฉีดเงินการคลังเพิ่มได้มากนัก เพราะไทยขาดดุลการคลังต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 18 ปีแล้ว ทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะสูงขึ้นจนอยู่ที่มากกว่า 60% ของจีดีพี มากไปกว่านั้น หนี้ครัวเรือนที่สูงกว่า 90% ของจีดีพีสะท้อนถึงขีดจำกัดที่จะสร้างการเติบโตด้วยการกระตุ้นบริโภคเช่นกัน

ทางออกของประเทศไทยอยู่ที่ไหน? เบื้องต้นเราจำเป็นที่จะต้องสร้างเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจสามตัว เพื่อที่จะเร่งเครื่องเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเดินหน้าได้เร็วและราบรื่น

สร้างเครื่องยนต์ตัวใหญ่ ที่กระฉับกระเฉงและสร้างสรรค์

รายงาน World Development Report (2024) ของธนาคารโลก เสนอว่าประเทศกำลังพัฒนาควรกระตุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในระบบเศรษฐกิจ (Disciplining powerful incumbents) ให้กระฉับกระเฉงและลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภาพและกระบวนการผลิตให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น หากไม่มีการกระตุ้นดังกล่าว บริษัทขนาดใหญ่ที่มีส่วนแบ่งตลาดและอำนาจต่อรองสูง (dominant power) ก็อาจจะใช้อำนาจนั้นแสวงหากำไรง่าย ๆ แทนการพัฒนา เช่น บริษัทอาจจะเลือกผลิตโดยใช้แรงงานราคาถูกต่อไป โดยไม่ลงทุนเครื่องจักรใหม่ และไม่ลงทุนอบรมพัฒนาทักษะแรงงาน เป็นต้น

การจะกระตุ้นให้เครื่องยนต์ตัวใหญ่ ใช้กำไรสะสมไปในทิศทางที่ก้าวหน้าสร้างสรรค์ด้วยความเร็ว สามารถทำได้โดย 1. บังคับใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้า เพื่อป้องกันการค้าที่ไม่เป็นธรรมและกระตุ้นการแข่งขัน 2. ลดอุปสรรคการเข้าสู่ตลาดของผู้แข่งขันรายใหม่ 3. สนับสนุนส่งเสริมบริษัทขนาดเล็กที่มีนวัตกรรมสูง และปกป้องมิให้ถูกรายใหญ่เอาเปรียบหรือ เข้าซื้อกิจการเพื่อฆ่าธุรกิจ (Killer acquisition)

และ 4. ผลักดันบริษัทขนาดใหญ่ที่รับความเสี่ยงได้มาก (เพราะมีกำไรสะสมสูง) ให้ดำเนินกิจกรรมที่ยากแต่ดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม เช่น การออกไปแข่งขันในตลาดโลก บุกตลาดเกิดใหม่ หรือ การลงทุนในนวัตกรรม เป็นต้น

จะเห็นว่าการกระตุ้นเครื่องยนต์ตัวใหญ่ เป็นเรื่องวิธีกำกับดูแลมากกว่าจะเป็นการกระตุ้นด้วยเงิน จึงไม่มีข้อจำกัดทางการคลังมากนัก (แต่มักจะเจอข้อจำกัดทางการเมืองเสียมากกว่า)

สร้างเครื่องยนต์ตัวใหม่ ด้วยเงินลงทุนระหว่างประเทศและการเชื่อมต่อห่วงโซ่มูลค่าโลก

 

การสร้างเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวใหม่ หมายถึงการ พัฒนาอุตสาหกรรมและสาขาการผลิตใหม่ที่ซับซ้อนขึ้น โดยมีผู้ประกอบการไทยและแรงงานไทยมีส่วนร่วมและส่วนแบ่งได้อย่างมีนัยสำคัญ ธรรมชาติอุตสาหกรรมใหม่มักเกิดจากการดึงดูดเงินลงทุนทางตรงจากประเทศและบริษัทที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (High-tech FDI) เข้ามาพร้อมร่วมทุนกับผู้ประกอบการไทยหรือใช้ผู้ผลิตส่วนประกอบไทย และค่อย ๆ ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่คนไทยได้เรียนรู้

ธนาคารโลกเรียกกระบวนการนี้ว่าการปรับจากการเติบโตด้วยเงินลงทุน (Investment-led growth) ไปสู่การผสมผสานดูดซับความสามารถ (Infusion) และการสร้างนวัตกรรม (Innovation) เราสามารถส่งเสริมกระบวนการดูดซับความสามารถทางการผลิตจากต่างประเทศได้โดย

  1. การดึงดูดและให้สิทธิพิเศษการลงทุน ควรมีเงื่อนไขที่เน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการจ้างงานทักษะสูงแก่คนไทย
  2. ส่งเสริมให้บริษัทขนาดกลางและเล็กของไทยเป็นคู่ค้ากับผู้ลงทุนจากต่างประเทศ เช่น ชิลีมี Supplier Development Program ช่วยให้บริษัทขนาดเล็กที่เข้าร่วมโครงการมียอดขายเพิ่มขึ้น 16% และการจ้างงานเพิ่มขึ้น 8% โดยประมาณ
  3. ดึงดูดคนไทยที่เก่งกาจในอุตสาหกรรมเป้าหมายกลับประเทศ และ
  4. มาตรการพัฒนาทักษะแรงงานให้ทันเทคโนโลยีและตรงกับอุตสาหกรรมใหม่ เป็นต้น

แหล่งที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.